รายละเอียดบทความ
ชื่อเรื่อง |
สภาพปัญหาและแนวทางการพัฒนาการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานภาครัฐในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี
|
ชื่อเรื่องรอง |
Existing situations, problems and guide development of knowledge management of public under the office of Chantaburi Educational Service Area
|
ชื่อผู้แต่ง |
|
หัวเรื่องคำสำคัญ |
|
หัวเรื่องควบคุม |
1. | การบริหารองค์ความรู้ |
2. | โรงเรียน -- ไทย -- จันทบุรี -- การบริหารองค์ความรู้ |
|
คำอธิบาย / บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาสภาพ ปัญหา เปรียบเทียบสภาพ ปัญหา
และแนวทางการพัฒนาการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานภาครัฐในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
จันทบุรีกลุ่มตัวอย่างได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี เขต 1 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี
เขต 2 ได้ กลุ่มตัวอย่างจำนวน 495 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถามมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ
สถิติที่ใช้ได้แก่ ความถี่ร้อยละ ค่าเฉลี่ย (X) ความเบี่ยงเบนมาตรฐาน (SD) การทดสอบค่าที (t-test)
และการวิเคราะห์ ความแปรปรวนทางเดียว (One-way ANOVA)
ผลการวิจัยพบว่า
1. สภาพการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี
จำแนกตามตำแหน่ง ขนาดโรงเรียน และสถานที่ตั้งของสถานศึกษา โดยรวมอยู่ในระดับมาก
2. ปัญหาการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจันทบุรี
จำแนกตามตำแหน่ง ขนาดของโรงเรียน และสถานที่ตั้งของสถานศึกษา
โดยรวมและรายด้านอยู่ในระดับปานกลาง
3. ผลการเปรียบเทียบสภาพการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้น
ที่การศึกษาจันทบุรี จำแนกตามตำแหน่ง จำแนกตามขนาดโรงเรียน และจำแนกตามที่ตั้งของสถานศึกษา
โดยรวมความแตกต่างกันอย่างไม่มีนัยสำคัญ ทางสถิติ
4. ผลการเปรียบเทียบปัญหาการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้
นที่การศึกษาจันทบุรี จำแนกตามตำแหน่ง และจำแนกตามตำแหน่ง และจำแนกตามที่ตั้งของสถานศึกษา
โดยรวมแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<..05)
5. แนวทางการพัฒนาการจัดการความรู้ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึก
ษาจันทบุรี ได้แก่
5.1ด้านการระบุความรู้ ควรสร้างวิสัยทัศน์เกี่ยวกับความรู้
จัดเก็บความรู้อย่างมีระบบงานต่อการสืบค้นและนำมาใช้งาน
และสรรหาบุคลาการผู้รับผิดชอบส่งเสริมบุคลากรร่วมแลกเปลี่ยนแบ่งปันประสบการณ์
5.2ด้านการพัฒนาความรู้ ควรใช้กลวิธีและสื่อในการสื่อสาร/
ประชาสัมพันธ์ให้ครอบคลุมทุกกลุ่มและต้องขยายช่องทางในการเข้ามามีส่วนร่วมรับรู้แลกเปลี่ยนข้อมู
ลเสนอผลงานและมีกิจกรรมอื่นๆ
5.3ด้านการจัดการความรู้ให้เป็นระบบ ควรให้เกิดความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสถานศึกษา
ศูนย์พัฒนาการวิชาการ สำนักงานเขตพื้นที่ หรือ แลกเปลี่ยนเรียนรู้และประสบการณ์ต่อกัน
5.4ด้านการเข้าถึงความรู้ ควรจัดการความรู้ที่เน้นเฉพาะส่วนของ ICT ให้ได้รายละเอียดขององค์ความรู้
สามารถแลกเปลี่ยนเรียนรู้ไปพร้อมๆกัน
5.5ด้านสร้างความรู้ ควรระดมความคิด
การแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในระหว่างการทำงานและหลังจากการทำงาน
ซึ่งจะต้องมีหน่วยงานหรือบุคคลรับผิดชอบในการทำกิจกรรมสร้างความรู้
5.6ด้านการแบ่งฟันความรู้ ควรมีการแบ่งปัน แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร
และการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของบุคลากรในสถานศึกษา และนอกสถานศึกษา
แล้วนำข้อมูลข่าวสาร ความรู้ที่ได้มาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซึ่งกันและกันระหว่างสถานศึกษา
5.7ด้านการเรียนรู้ ความเปลี่ยนทัศนคติในการทำงานของครู
ให้มีทัศนคติทางบวกจากการทำงานและศึกษาวิธการทำงานให้มีประสิทธิภาพ
|
รายละเอียดวารสารเพื่อติดตามอ่านบทความฉบับเต็ม (Full Text)