รายละเอียดบทความ
ชื่อเรื่อง ความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเทศบาลวัดชุมพลคีรี เทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก
ชื่อเรื่องรอง
ชื่อผู้แต่ง
1.อุไรวรรณ ใหมสกุล
หัวเรื่องคำสำคัญ
หัวเรื่องควบคุม
1.ครู -- ความพอใจในการทำงาน -- วิจัย
คำอธิบาย / บทคัดย่อ วัตถุประสงค์ของการศึกษาครั้งนี้ เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของครูโรงเรียนเทศบาลวัดชุมชนพลคีรี เทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอดจังหวัดตาก จำแนกตามเพศประชากรได้แก่ครู โรงเรียนเทศบาลวัดชุมพลคีรีที่ปฏิบัติหน้าที่สายผู้สอน และสนับสนุนการสอน ในปีการศึกษา 2553จำนวน 62 คน เครื่องมือที่ใช้เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาเป็นแบบสอบถามเกี่ยวกับความพึงพอใจในการปฏิบัติงานครูโรงเรียนเทศบาลวัดชุมพลคีรี เทศบาลนครแม่สอด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ผลการศึกษาพบว่า ความพึงพอใจในด้านการใช้รับการยอมรับนับถือทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และเมื่อจำแนก เป็นรายด้านโดยภาพรวมเพศชาย และเพศหญิงมีความพึงพอใจ อยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดคือของทั้งเพศชายและเพศหญิงคือ เพื่อนร่วมงานรับฟัง ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ ส่วนเพศหญิงมีเพิ่มอีก 1 รายการ คือ นักเรียนและผู้ปกครองให้ความเคารพนับถือ และยอมรับในความรู้ความสามารถ ความพึงพอใจในด้านความสำเร็จในงานทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และเมื่อเป็นรายด้านโดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดทั้งเพศชายและเพศหญิง คือ โรงเรียนสนับสนุนให้พัฒนาการตนเองด้านความรู้ความสามารถเพื่อเพิ่มทักษะในการปฏิบัติงาน ส่วนเพศหญิงมีเพิ่มอีกหนึ่งรายคือ โรงเรียนสนับสนุนให้ได้รับการพัฒนาความรู้ความสามารถ ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อนำมาใช้ในการปฏิบัติงาน ความพึงพอใจในด้านความรับผิดชอบในงานทั้งเพศชายและเพศหญิงไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ 0.05 และเมื่อจำแนก เป็นรายด้านโดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูดสุดทั้งเพศชาย และเพศหญิง คือมีความสนใจและตั้งใจในการปฏิบัติงานและหน้าที่อย่างเต็มความสามารถ ความพึงพอใจในด้านลักษณะของงานที่ปฏิบัติทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางระดับที่ 0.05 และเมื่อจำแนก เป็นรายด้านโดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดทั้งเพศชาย และเพศหญิง คือ งานที่ปฏิบัติท้าทายความรู้ ความสามารถ ความพอใจในด้านนโยบายและการบริหารทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 และเมื่อจำแนกเป็นรายด้าน โดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของเพศชาย คือนโยบายของโรงเรียนมีความชัดเจน สามารถนำไปปฏิบัติให้สำเร็จได้ ส่วนเพศหญิง คือโครงสร้าง การบริหารของโรงเรียนมี การวางระบบ ระเบียบ และแนวปฏิบัติชัดเจน ความพึงพอใจในด้านวิธีการปกครองบังคับบุญชาที่ปฏิบัติทั้งในเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของเพศชาย คือผู้บริหารมีการกระจายอำนาจหน้าที่ในการปฏิบัติงานอย่างชัดเจน ส่วนเพศหญิง คือผู้บริหารมีภาวะผู้นำและมีความรู้ความสามารถในการบริหารงานเป็นอย่างดี ความพึงพอใจในด้านความสัมพันธ์กับผู้บังคับบัญชาที่ปฏิบัติงานในงานทั้งเพศชาย และเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน โดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของเพศชาย และหญิงคือ ผู้บริหารมีไมตรีจิต และมีความเป็นกันเองทั้งในหน้าที่การงานและส่วนตัว ความพึงพอใจในด้านความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ปฏิบัติงานทั้งเพศชาย และเพศหญิงไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 โดยภาพรวมเพศชายมีมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง และเพศหญิงอยู่ในระดับมากโดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดทั้งเพศชายและหญิงคือ เพื่อนร่วมงานให้ความร่วมมือในการปฏิบัติงาน และเพื่อนร่วมงานให้ความช่วยเหลือกันเป็นอย่างดี ความพึงพอใจในด้านสภาพการทำงานทั้งเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน โดยภาพรวมเพศชายมีความพอใจในระดับน้อยและเพศหญิงอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดทั้งเพศชาย และหญิงคือ เครื่องมืออุปกรณ์การสอน และอุปกรณ์การทำงานมีเพียงพอเหมาะสมกับการปฏิบัติงาน ความพึงพอใจด้านรายได้ ทั้งในเพศชายและเพศหญิง ไม่มีความแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05 เมื่อจำแนกเป็นรายด้าน โดยภาพรวมเพศชายและเพศหญิงมีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง โดยมีรายการที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุดของเพศชาย และหญิงคือ ความพึงพอใจในสวัสดิการที่โรงเรียนจัดให้ ได้แก่ อาหารกลางวัน ทุนการศึกษาแก่บุตรการเยี่ยมไข้กรณีเจ็บป่วย และเงินช่วยงานศพเป็นต้น
รายละเอียดวารสารเพื่อติดตามอ่านบทความฉบับเต็ม (Full Text)
ชื่อวารสาร บทความวิจัย บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันรัชต์ภาคย์
ปีที่ 1
ฉบับที่ 4
หน้าที่ 77 - 84
ปีพิมพ์ 2554
ชื่อสำนักพิมพ์ บัณฑิตวิทยาลัย สถาบันรัชต์ภาคย์
ชื่อสำนักพิมพ์ภาษาอื่น
ISSN
ตำแหน่งในระบบ Link
ภาษา Thai
ติดต่อบรรณารักษ์
เพื่อยืมตัวเล่มวารสารไปถ่ายเอกสารบทความฉบับเต็ม

(บริการนี้สำหรับนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเท่านั้น)