รายละเอียดบทความ
ชื่อเรื่อง การสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับการใช้หลักสูตร วิชากิจกรรมพลศึกษา มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ปีการศึกษา 2550
ชื่อเรื่องรอง The Survey of the Opinions on the Implementation for the Physical Education Activity Curriculum at theUbonratchathani University
ชื่อผู้แต่ง
1.ประเสริฐศักดิ์ โลหะไพบูลย์กุล
หัวเรื่องคำสำคัญ
หัวเรื่องควบคุม
1.พลศึกษา -- กิจกรรมการเรียนการสอน
2.พลศึกษา -- การศึกษาและการสอน (อุดมศึกษา)
คำอธิบาย / บทคัดย่อ การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาความคิดเห็นของนักศึกษาต่อการเรียนการสอน วิชา 1439 100 กิจกรรมพลศึกษา 1 และวิชา 1439 101 กิจกรรมพลศึกษา 2 ซึ่งเป็นรายวิชาที่ปรับใหม่ กลุ่มตัวอย่าง ได้มาจากการสุ่มแบบง่าย จากนักศึกษาทุกคณะ จำนวน400 คน เป็นนักศึกษาชาย จำนวน 131 คน และนักศึกษาหญิง จำนวน 269 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เป็นแบบสอบถามความคิดเห็น ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.95 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูป SPSS เพื่อหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ย โดยสถิติทดสอบที(t-test) ผลการศึกษา พบว่า 1. นักศึกษามีความคิดเห็นต่อการเรียนการสอนวิชากิจกรรมพลศึกษา ปีการศึกษา 2550 แยกเป็นรายด้าน ทั้ง 6 ด้าน คือ ครูผู้สอน จุดมุ่งหายการเรียนการสอน การวัดและประเมินผล วิธีการสอนและจัดการเรียนการสอน หลักสูตร และอุปกรณ์ / สถานที่ อยู่ในระดับเห็นด้วยมากทุกด้าน ในภาพรวมนักศึกษามีความคิดเห็นอยู่ในระดับเห็นด้วยมากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 14.50 เห็นด้วยมาก ร้อยละ 74.25 และเห็นด้วยในระดับปานกลาง ร้อยละ 11.25 เรียงลำดับความคิดเห็นจากมากไปน้อย 6 ด้าน คือ ด้านครูผู้สอน ด้านจุดมุ่งหมายการเรียนการสอน ด้านการวัดและการประเมินผล ด้านวิธีการสอนและการจัดการเรียนการสอน ด้านหลักสูตร และด้านอุปกรณ์ /สถานที่ เป็นลำดับสุดท้าย 2. นักศึกษาชายและนักศึกษาหญิง มีความคิดเห็นต่อการเรียนการสอนวิชากิจกรรมพลศึกษาในภาพรวม แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (P<0.05) 3. นักศึกษากลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และกลุ่มวิชามนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มีความคิดเห็นต่อการเรียนการสอนวิชากิจกรรมพลศึกษาในภาพรวม ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p>0.05) แต่เมื่อพิจารณาแยกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านที่มีความเห็นแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ (p<0.05) คือ ด้านวิธีการสอนและจัดการเรียนการสอน 4. นักศึกษาให้ข้อเสนอแนะว่า ควรเพิ่มจำนวนกลุ่ม หรือประเภทที่เปิดสถานที่มากขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาเลือกเรียนตามความสนใจ ประเภทกีฬา 5 ลำดับแรกที่นักศึกษาหญิงต้องการให้เปิดสอนเรียงตามลำดับ ดังนี้ แบดมินตัน แอโรบิก โยคะ วอลเล่ย์บอล และว่ายน้ำ ประเภทกีฬา 5 ลำดับแรก ที่นักศึกษาชาต้องการให้เปิดสอนเรียงตามลำดับ ดังนี้ ฟุตบอล เทเบิลเทนนิส แบดมินตัน วอลเล่ย์บอล และบาสเกตบอล ในด้านอุปกรณ์การสอน ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาให้อยู่ในสภาพดีเสมอ ควรมีอุปกรณ์ยืมเรียนและส่งคืนท้ายคาบ หรือเบิกอุปกรณ์ฝึกซ้อมยืมเล่นในยามว่างได้
รายละเอียดวารสารเพื่อติดตามอ่านบทความฉบับเต็ม (Full Text)
ชื่อวารสาร วารสารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ปีที่ 2
ฉบับที่ 1
หน้าที่ 100 - 110
ปีพิมพ์ 2554
ชื่อสำนักพิมพ์ โครงการจัดตั้งกองส่งเสริมการวิจัย บริการวิชาการและศิลปวัฒนธรรม สำนักงานอธิการบดี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ชื่อสำนักพิมพ์ภาษาอื่น
ISSN 2228-8244
ตำแหน่งในระบบ Link
ภาษา Thai
ติดต่อบรรณารักษ์
เพื่อยืมตัวเล่มวารสารไปถ่ายเอกสารบทความฉบับเต็ม

(บริการนี้สำหรับนักศึกษาและบุคลากรมหาวิทยาลัยฟาร์อีสเทอร์นเท่านั้น)