รายละเอียดบทความ
ชื่อเรื่อง |
ปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของนักเรียนหญิงช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นการศึกษาสุราษฎร์ธานี เขต 1
|
ชื่อเรื่องรอง |
Factors Contribute to Verbal Aggressive Behaviors of Secondary school Female Students under the Office of Suratthani Educational service Area 1
|
ชื่อผู้แต่ง |
|
หัวเรื่องคำสำคัญ |
|
หัวเรื่องควบคุม |
1. | นักเรียน -- พฤติกรรม |
2. | ความก้าวร้าวในเยาวชน |
3. | ความก้าวร้าวในวัยรุ่น |
4. | การพูด -- พฤติกรรม |
|
คำอธิบาย / บทคัดย่อ |
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษา 1) ระดับประสบการณ์การถูกลงโทษทางวาจา พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของบุคคลในครอบครัว พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของเพื่อนสนิท ความสนใจในการลือกรับสื่อที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจา และพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของนักเรียนช่วงชั้น ที่ 3 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 1 2)เปรียบเทียบพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของนักเรียนหญิงจำแนกตาม ระดับชั้น ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สภาพครอบครัว เศรษฐกิจของครอบครัว และ ระดับการศึกษาสูงสุดของมารดาหรือบุคคลที่ทำหน้าที่ทนมารดา 3)ประสบการณ์การถูกลงโทษทางวาจา พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของบุคคลในครอบครัว พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของเพื่อนสนิท ความสนใจในการเลือกรับสื่อที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจา เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อพฤติกรรมก้าวร้าว ทางวาจาของนักเรียนหญิง กลุ่มตัวอย่างที่เป็นนักเรียนหญิงช่วงชั้นที่ 3 โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุราษฏร์ธานี เขต 1 จำนวน 356 คน โดยวิธีการสุ่มแบบหลายขั้นตอน (Multi – stage Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยเป็นแบบสอบถาม สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย (x) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) การวิเคราะห์ความแปรปรวนทางเดียว (One-Way ANOVA) และการวิเคราะห์การถดถอยพหุคูณตามลำดับความสำคัญของตัวแปรที่นำเข้าสมการ (Stepwise Multiple Regression Analysis) ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสบการณ์การถูกลงโทษทางวาจา พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของบุคคลในครอบครัว พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของเพื่อนสนิท ความสนใจในการเลือกรับสื่อที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจา และพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของนักเรียนหญิงช่วงชั้นที่ 3 อยู่ในระดับปานกลาง
2. นักเรียนหญิงช่วงชั้นที่ 3 ที่มีสภาพครอบครัวต่างกัน มีพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาต่างกัน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 แต่เมื่อจำแนกตาม ระดับชั้นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เศรษฐกิจครอบครัว และระดับการศึกษาสูงสุดของมารดาหรือบุคคลที่ทำหน้าที่แทนมารดา ไม่พบความแตกต่าง
3. พฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของบุคคลในครอบครัว และความสนใจในการเลือกรับสื่อที่มีพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจา สามารถร่วมกันทำนายพฤติกรรมก้าวร้าวทางวาจาของนักเรียนหญิงช่วงชั้นที่ 3 ได้ร้อยละ 73.7 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .001
|
รายละเอียดวารสารเพื่อติดตามอ่านบทความฉบับเต็ม (Full Text)